This is default featured slide 1 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 2 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 3 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 4 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 5 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

วันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2555

29 มิถุนายน 2555

ธนาคารกรุงเทพและชมรมบัวหลวงเอสเอ็มอี จัดสัมมนา ‘SME ไทยในยุควิกฤตแรงงาน’ สร้างภูมิคุ้มกันแก่ลูกค้าผู้ประกอบการเอสเอ็มอี




         นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหาร (กลาง) นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ที่ 2 จากขวา) นายสุวรรณ แทนสถิตย์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ (ที่ 2 จากซ้าย) นายชาญศักดิ์ เฟื่องฟู กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ (ขวา) นายวีระศักดิ์ สุตัณฑวิบูลย์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ (ซ้าย) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ร่วมให้การต้อนรับ ดร.สมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจมหภาค (ที่ 4 จากขวา) สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ที่ให้เกียรติบรรยายพิเศษหัวข้อ “เศรษฐกิจไทยปี 2555’ และวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิที่ให้เกียรติร่วมอภิปรายในงานสัมมนา ‘SME ไทยในยุควิกฤตแรงงาน’ ประกอบด้วย ดร.ยงยุทธ์ แฉล้มวงษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย (ที่ 3 จากขวา) ทีดีอาร์ไอ นางวาสนา ลาทูรัส ประธานบริหาร (ที่ 4 จากซ้าย) บริษัทนารายณ์ อินเตอร์ เทรด จำกัด นายกมล ชุติพงศ์นาวิน กรรมการผู้จัดการ (ที่ 3 จากซ้าย) บริษัท เค เอ็ม เอฟ จำกัด และนายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร บริษัทนิวไวเต็ก จำกัด ทั้งนี้ธนาคารกรุงเทพและชมรมบัวหลวงเอสเอ็มอีได้ร่วมกันจัดสัมมนาขึ้นปีละ 2 ครั้ง โดยการจัดสัมมนาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสะท้อนภาพสถานการณ์ปัญหาแรงงานที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศ โดยให้ข้อคิดต่างๆ ที่จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มสามารถรับมือกับปัญหาแรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ


ที่มา : http://www.newswit.com/fin/2012-06-29/92ef818c5175502adadbc98018180dbe/

บทวิเคราะห์ข่าว : การบรรยายพิเศษหัวข้อ "เศรษฐกิจไทยปี 2555 " นับว่าเป็นโอกาสที่ดีอย่างยิ่งในการสะท้อนภาพสถานการณ์ปัญหาแรงงานที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี จะได้รับทราบถึงปัญหาและเตรียมพร้อมรับมือปัญหาแรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเมื่อมีการับรู้ถึงปัญหาต่างๆแล้ว จะยังช่วยเพิ่มขีดความสามารถ ศักยภาพของแรงงานไทยและธุรกิจเอสเอ็มอีอีกด้วย




27 มิถุนายน 2555

ธนาคารกรุงเทพ เปิดตัวเงินฝากประจำ 5 เดือน ดอกเบี้ยพิเศษ 3.25% มอบผลตอบแทนคุ้มค่าในเวลาอันสั้น




        ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) แนะนำเงินฝากประจำระยะเวลา 5 เดือน อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 3.25% ต่อปี โดยลูกค้าสามารถเปิดบัญชีขั้นต่ำด้วยยอดเงินเพียง 200,000 บาท ซึ่งธนาคารจะจ่ายดอกเบี้ยเมื่อครบระยะเวลาการฝาก พร้อมให้บริการตั้งแต่วันนี้ถึงวันพุธที่ 25 กรกฎาคม 2555 นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับลูกค้าเงินฝากที่ต้องการเลือกผลิตภัณฑ์ที่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่าในระยะเวลาอันสั้น เพื่อการวางแผนด้านการเงิน ทั้งนี้ ลูกค้าที่สนใจสามารถเปิดบัญชีเงินฝากประเภทดังกล่าวได้ที่ธนาคารกรุงเทพทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บัวหลวงโฟน โทร.1333 และ www.bangkokbank.com


ที่มา : http://www.newswit.com/fin/2012-06-27/a2a3b80a998aff68603991f99bdcfd98/

วิเคราะห์ข่าว ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ได้แนะนำเงินฝากประจำระยะสั้นให้กับลูกค้า ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า และเพื่อเป็นการวางแผนด้านการเงินให้กับลูกค้าอีกด้วย


26 มิถุนายน 2555

บรรยายพิเศษเรื่อง “พิชิตปัญหา...ส่งมอบธุรกิจครอบครัว” ณ ห้องชาเทรียม บอลรูม โรงแรมชาเทรียม ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ



           “Bualuang SMART Family Enterprise เพื่อนคู่คิดวิสาหกิจครอบครัว" มีโครงการหลากหลายเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการ และหลักสูตร ปลดล็อค...ปัญหาโครงสร้างธุรกจิครอบครัวอย่างมืออาชีพ เป็นอีกหนึ่งหลักสูตรของโครงการนี้ซึ่งได้รับเกียรติจาก ศ.พิเศษ กิติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์ ประธานกรรมการ บริษัท เบเคอร์ แอนด์ แม็คเค็นซี่ จำกัด บรรยายพิเศษเรื่อง “พิชิตปัญหา...ส่งมอบธุรกิจครอบครัว” ณ ห้องชาเทรียมบอลรูม โรงแรม ชาเทรียม ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ ซึ่งร่วมกันจัดโดย ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และ สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการเชิงสร้างสรรค์ (CEDI) มหาวิทยาลัยกรุงเทพ


ที่มา : http://www.newswit.com/fin/2012-06-26/dfc840441f05d219dfb8bf52988f58bf/

วิเคราะห์ข่าว : ธนาคารกรุงเทพได้มีโครงการ เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการ โดยเฉพาะธุรกิจภายในครอบครัว ก็เพื่อให้ธุรกิจดำเนินไปได้อย่างราบรื่นมากขึ้น เพราะคนในครอบครัวสามารถลดปัญหาในเรื่องธุรกิจลงได้ จึงนับเป็นโอกาสที่ดีที่ทางธนาคารได้จัดโครงการดีๆ อย่างนี้ขึ้นมา


25 มิถุนายน 2555

ธนาคารกรุงเทพ ร่วมแสดงความยินดีธนาคารโยโกฮามา เปิดตัวสำนักงานผู้แทนธนาคารในกรุงเทพฯ




        นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ที่ 5 จากขวา) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ร่วมให้เกียรติขึ้นกล่าวแสดงความยินดีแก่ มร.ทัทซึมาโระ เทราซาวะ (ที่ 2 จากขวา) ประธานธนาคารโยโกฮามา ในพิธีเปิดสำนักงานผู้แทนธนาคารโยโกฮามา กรุงเทพฯ ประเทศไทย โดยมี มร.เซอิจิ โคจิมะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย (ที่ 3 จากขวา) และมร.ฮิโตชิ โอซาวา ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ (ที่ 4 จากขวา) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ร่วมให้เกียรติในงาน ทั้งนี้ ธนาคารกรุงเทพและธนาคารโยโกฮามาได้ร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่แน่นแฟ้นและยาวนานนับตั้งแต่ปีพ.ศ.2538 โดยธนาคารกรุงเทพได้ให้บริการทางการเงินอันหลากหลาย พร้อมคำแนะนำและข้อมูลสนับสนุนที่สำคัญด้านต่างๆ แก่ลูกค้าของธนาคารโยโกฮามาที่เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบวงจร ในฐานะที่ธนาคารกรุงเทพเป็นธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ในประเทศไทย มีสาขากว่า 1,000 สาขาทั่วประเทศ รวมทั้งในนิคมอุตสาหกรรมหลักทุกแห่งที่มีบริษัทญี่ปุ่นดำเนินธุรกิจอยู่ อีกทั้งธนาคารกรุงเทพยังมีสาขาในประเทศญี่ปุ่น 2 แห่ง คือ สาขาโตเกียว และสาขาโอซากา


ที่มา:http://www.bangkokbank.com/bangkok%20bank%20Thai/about%20bangkok%20bank/about%20us/media%20room/2012/June/Pages/PressRelease25Jun.aspx


บทวิเคราะห์ข่าว : นายชาติ  โสภณพนิช  กรรมกาผู้จัดการใหญ่  ของธนาคารกรุงเทพ  จำกัด (มหาชน) ได้ให้เกียรติขึ้นกล่าวแสดงความยิงดีกับประธานธนาคารโยโกฮามา  ในพิธีเปิดสำนักงานผู้แทนธนาคารโยโกฮามา  ในกรุงเทพ  ทั้ง 2 ธนาคารยังเป็นพันมิตรทางธุรกิจที่แน่นแฟ้งมายาวนานอีกด้วย



วันเสาร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2555

22 มิถุนายน 2555

ธนาคารกรุงเทพชี้ความร่วมมือสร้างโอกาสแก่กลุ่มประเทศในเขตลุ่มน้ำโขง

             นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวระหว่างการเสวนาระดับผู้นำ ในหัวข้อ “Greater Mekong Investment Forum” ซึ่งจัดโดยยูโรมันนี่ โดยมีธนาคารกรุงเทพเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนการจัดงานว่า อนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (จีเอ็มเอส) มีศักยภาพที่จะเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่เติบโตอย่างรวดเร็วที่สุดแห่งหนึ่งของโลก สมาชิกในกลุ่มจีเอ็มเอส ประกอบด้วย ไทย พม่า ลาว กัมพูชา เวียดนาม และมณฑลยุนนานและกว่างสีในจีนตอนใต้ เมื่อผนวกเข้าด้วยกันจะเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีจำนวนประชากรกว่า 350 ล้านคน ซึ่งมีความเชื่อมโยงกันเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ ทั้งในภาคการธนาคาร การค้า การลงทุน และระบบโครงสร้างพื้นฐาน
        “เขตเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้กำลังหลอมรวมและเชื่อมโยงกันมากขึ้นกว่าครั้งใด ผ่านการค้าชายแดนของแต่ละประเทศ ตลอดจนการลงทุนและการแลกเปลี่ยนบริการในด้านต่างๆ ซึ่งจำเป็นที่ทุกประเทศสมาชิกจะต้องร่วมกันรักษาและเพิ่มพูนความร่วมมือระหว่างกันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ด้วยเงินทุน องค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการตลอดจนบทบาทและความสัมพันธ์ของประเทศไทยในห่วงโซ่อุปทานของโลก ประเทศไทยมีความพร้อมที่จะร่วมมือกับสมาชิกในกลุ่
         จีเอ็มเอสในการส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างกันและกับประเทศอื่นๆ เพื่อสร้างสรรค์ประโยชน์สูงสุดแก่ อนุภูมิภาคดังกล่าว” ความร่วมมือระหว่างประเทศต่างๆ ที่เป็นสมาชิกจีเอ็มเอสซึ่งต่างมีความโดดเด่นในเชิงการแข่งขันเฉพาะตัวจะสามารถสร้างสรรค์ประโยชน์และความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจแก่ทุกประเทศในอนุภูมิภาคได้มากกว่าการดำเนินการของแต่ละประเทศโดยลำพัง
        ธนาคารกรุงเทพ ในฐานะธนาคารพาณิชย์ที่มีเครือข่ายสาขากว่า 25 แห่งในต่างประเทศและสำนักงานตัวแทนอีก 1 แห่ง ซึ่งส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศจีน รวมทั้งความสัมพันธ์กับกลุ่มประเทศ          จีเอ็มเอสมายาวนานกว่า 50 ปี ธนาคารกรุงเทพจึงพร้อมให้การสนับสนุนการค้าการลงทุนระหว่างประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ด้วยความเข้าใจในการดำเนินธุรกิจระหว่างประเทศอย่างลึกซึ้ง
        ตลอดระยะเวลา 2 วันของการประชุม ธนาคารกรุงเทพได้จัดกิจกรรมต่างๆ มากมาย อาทิ เวิร์กช็อปเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศจีเอ็มเอส โดย ดร.ณรงค์ชัย อัครเศรณี อดีตรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์และสมาชิกวุฒิสภา ในขณะที่ผู้บริหารระดับสูงของธนาคารได้เข้าร่วมการเสวนาในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับโอกาสทางธุรกิจและศักยภาพในการเติบโตของอนุภูมิภาค
        อนึ่ง ผู้เข้าชมบูธธนาคารกรุงเทพภายในงานจำนวนมาก สนใจสอบถามเกี่ยวกับประเทศพม่า เนื่องจากธนาคารได้จัดตั้งสำนักงานตัวแทนในประเทศพม่ามาตั้งแต่ปี 2538 จนกระทั่งปัจจุบัน ธนาคารมีเจตนารมณ์ที่จะยื่นขออนุญาตเปิดสาขาในประเทศพม่าทันทีที่ทางการของพม่าดำเนินนโยบายเปิดเสรีภาคการธนาคาร
เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านประเทศพม่าของธนาคารกรุงเทพได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการจัดตั้งธุรกิจในประเทศพม่า ปัจจัยด้านกฎระเบียบต่างๆ รวมทั้งกฎหมายที่เกี่ยวกับการลงทุนจากต่างชาติ และโอกาสทางธุรกิจของผู้ประกอบการไทย
         นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับความอุดมสมบูรณ์ทางด้านทรัพยากรธรรมชาติของประเทศพม่า โดยเฉพาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ และเริ่มเปิดประเทศรับเศรษฐกิจโลกมากขึ้น ธุรกิจไทยจึงควรตระหนักถึงจุดแข็งของพม่า อันได้แก่ ทรัพยากรธรรมชาติ ความพร้อมด้านแรงงาน และการเป็นตลาดที่ผู้ประกอบการมีความสนใจเข้าไปลงทุนอย่างมาก ดังนั้นเมื่อการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจจากนานาชาติยุติลง ธุรกิจไทยจะมีโอกาสในการสนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศเพื่อนบ้านอย่างพม่าได้มากยิ่งขึ้น




บทวิเคราะห์ข่าว : จากข่าวข้างต้นเป็นการกล่าวถึงความร่วมมือสร้างโอกาสแก่กลุ่มประเทศในเขตลุ่มน้ำโขงโดยธนาคารกรุงเทพ ในฐานะธนาคารพาณิชย์ที่มีเครือข่ายสาขากว่า 25 แห่งในต่างประเทศและสำนักงานตัวแทนอีก 1 แห่ง ซึ่งส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศจีน รวมทั้งความสัมพันธ์กับกลุ่มประเทศจีเอ็มเอสมายาวนานกว่า 50 ปี ธนาคารกรุงเทพจึงพร้อมให้การสนับสนุนการค้าการลงทุนระหว่างประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ด้วยความเข้าใจในการดำเนินธุรกิจระหว่างประเทศอย่างลึกซึ้ง  ตลอดระยะเวลา 2 วันของการประชุม ธนาคารกรุงเทพได้จัดกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศจีเอ็มเอส  ปัจจุบันธนาคารมีเจตนารมณ์ที่จะยื่นขออนุญาตเปิดสาขาในประเทศพม่าทันทีที่ทางการของพม่าดำเนินนโยบายเปิดเสรีภาคการธนาคาร  โดยเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านประเทศพม่าของธนาคารกรุงเทพได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการจัดตั้งธุรกิจในประเทศพม่า ปัจจัยด้านกฎระเบียบต่างๆกฎหมายที่เกี่ยวกับการลงทุนจากต่างชาติ รวมทั้งข้อมูลเกี่ยวกับความอุดมสมบูรณ์ทางด้านทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ ธุรกิจไทยจึงควรตระหนักถึงจุดแข็งของพม่า อันได้แก่ ทรัพยากรธรรมชาติ ความพร้อมด้านแรงงาน และการเป็นตลาดที่ผู้ประกอบการมีความสนใจเข้าไปลงทุนอย่างมาก



19 มิถุนายน 2555

ธนาคารกรุงเทพ นำคณะเยี่ยมคำนับรมว.การเงิน สปป.ลาว ในโอกาสนำสมาชิกชมรมบัวหลวงเอสเอ็มอีดูงานและเจรจาการค้า




       นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฏ์ ประธานกรรมการบริหาร (กลาง) และนายวีระศักดิ์ สุตัณฑวิบูลย์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ รับผิดชอบสายลูกค้าธุรกิจรายกลาง (ซ้าย) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) นำคณะผู้แทนชมรมบัวหลวงเอสเอ็มอี เข้าเยี่ยมคำนับ ฯพณฯ พูเพ็ด คำพูนวง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเงิน (ที่ 4 จากขวา) สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ในโอกาสนำนักธุรกิจสมาชิกชมรมบัวหลวงเอสเอ็มอีกว่า 100 ท่าน นำโดยนายอยุทธ์ วิสิฐนรภัทร หุ้นส่วนผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัดบางกอกแสงไทย ในฐานะประธานชมรมบัวหลวงเอสเอ็มอี (ที่ 2 จากซ้าย) นายสมชัย เตชะพานิชกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยเพ็ท อุตสาหกรรม จำกัด (ที่ 2 จากขวา) นายอังกูร เตชะวินิจอุดม กรรมการผู้จัดการ บริษัท แกรนด์บิลท์ จำกัด (ที่ 3 จากขวา) ทั้ง 2 ในฐานะอดีตประธานชมรมบัวหลวงเอสเอ็มอี รวมถึงนางวาสนา ลาทูรัส ประธานบริหาร บริษัท นารายณ์ อินเตอร์เทรด จำกัด (ที่ 3 จากขวา) และนายศักดิ์ชัย มาลาสิทธิ์ ประธาน กลุ่มบริษัท Laos World (ขวา) เดินทางศึกษาดูงาน พร้อมเจรจาธุรกิจ และสำรวจลู่ทางการค้าการลงทุน ณ นครเวียงจันทร์ สปป.ลาว ระหว่างวันที่ 11-13 มิถุนายน 2555 นับเป็นโอกาสอันดีที่ธนาคารกรุงเทพได้ดำเนินบทบาทธนาคารผู้นำในการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่างประเทศ และเป็นธนาคารพาณิชย์ของไทยเพียงแห่งเดียวที่มีเครือข่ายต่างประเทศที่กว้างขวางมากถึง 26 แห่ง กระจายอยู่ใน 13 เขตเศรษฐกิจสำคัญทั่วโลก รวมถึงสาขาเวียงจันทน์ สปป.ลาว ด้วย


ที่มา:http://www.bangkokbank.com/bangkok%20bank%20Thai/about%20bangkok%20bank/about%20us/media%20room/2012/June/Pages/PressRelease19Jun.aspx

บทวิเคราะห์ข่าว : จากข่าวคิดว่าการนำคณะไปเยี่ยมชม เป็นการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ทางธุรกิจและจะทำให้ธนาคารกรุงเทพมีเครือข่ายมากขึ้นในต่างประเทศ รวมทั้งเขตเศรษฐกิจทั่วโลก ตามบทบาทธนาคารผู้นำและยังสร้างโอกาสทางธุรกิจภาคการเงินอีกด้วย



15 มิถุนายน 2555


เงินบาทเปิด 31.47/55 คาดแกว่งแคบ ตลาดรอลุ้นผลเลือกตั้งกรีซ

   
          นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.47/55 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 31.57/59 บาท/ดอลลาร์
          ทิศทางเงินบาทวันนี้คาดว่าจะยังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ เนื่องจากเป็นวันสุดท้ายของสัปดาห์ ประกอบกับตลาดให้ความสนใจรอฟังผลการเลือกตั้งของกรีซในวันอาทิตย์นี้ 17 มิ.ย. จึงยังทำวันนี้เงินบาทน่าจะนิ่งๆ และน่าจะเห็นความชัดเจนได้ต้นสัปดาห์หน้า"วันนี้บาทคงทรงๆ ไม่มีอะไรมาก ตอนนี้ทุกคนต่างจับตาดูผลการเลือกตั้งของกรีซวันอาทิตย์นี้ก่อน จึงน่าจะเห็น trend ของบาทที่ชัดเจนตอนเปิดมาในวันจันทร์" นักบริหารเงิน ระบุส่วนความเคลื่อนไหวของค่าเงินสกุลหลักต่างประเทศช่วงเปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 79.27/40 เยน/ดอลลาร์ ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2616/2627 ดอลลาร์/ยูโร
         คืนนี้ สหรัฐฯ จะมีการรายงานข้อมูลทางเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะเปิดเผยข้อมูลการผลิตในภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังผลิต และกระทรวงการคลังรายงานข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิและปริมาณการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐของต่างชาติเดือนเม.ย. เป็นต้น
         นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 31.42-31.57 บาท/ดอลลาร์ ล่าสุด SPOT อยู่ที่ 31.5370 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ 2.72358%
 ทิศทางเงินบาทวันนี้คาดว่าจะยังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ เนื่องจากเป็นวันสุดท้ายของสัปดาห์ ประกอบกับตลาดให้ความสนใจรอฟังผลการเลือกตั้งของกรีซในวันอาทิตย์นี้ 17 มิ.ย. จึงยังทำวันนี้เงินบาทน่าจะนิ่งๆ และน่าจะเห็นความชัดเจนได้ต้นสัปดาห์หน้า"วันนี้บาทคงทรงๆ ไม่มีอะไรมาก ตอนนี้ทุกคนต่างจับตาดูผลการเลือกตั้งของกรีซวันอาทิตย์นี้ก่อน จึงน่าจะเห็น trend ของบาทที่ชัดเจนตอนเปิดมาในวันจันทร์" นักบริหารเงิน ระบุส่วนความเคลื่อนไหวของค่าเงินสกุลหลักต่างประเทศช่วงเปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 79.27/40 เยน/ดอลลาร์ ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2616/2627 ดอลลาร์/ยูโรคืนนี้ สหรัฐฯ จะมีการรายงานข้อมูลทางเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะเปิดเผยข้อมูลการผลิตในภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังผลิต และกระทรวงการคลังรายงานข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิและปริมาณการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐของต่างชาติเดือนเม.ย. เป็นต้นนักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 31.42-31.57 บาท/ดอลลาร์ล่าสุด SPOT อยู่ที่ 31.5370 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ 2.72358%

ที่มา :http://www.ryt9.com/s/iq03/1425124

บทวิเคราะห์ข่าว : ค่าเงินบาทช่วงนี้มีการแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ธนาคารกรุงเทพได้มีกาติดตามการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทอยู่โดยตลอด มีการจับตาดูสถานการณ์วิกฤตหนี้ยุโรปและการเลือกตั้งของกรีซ ที่จะเกิดขึ้นซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อค่าเงินบาทของไทย เพื่อที่ธนาคารจะได้เตรียมรับมือในการบริหารความเสี่ยง เพื่อควบคุมเหตุการณ์และสถานการณ์ที่อาจจะเกิดปัจจัยเสี่ยงที่มีผลต่อธนาคาร เพื่อให้องค์กรสามารถยืนอยู่ได้ท่ามกลางความผันผวนของค่าเงินบาท


          

13 มิถุนายน 2555


ธนาคารกรุงเทพ มอบคอนโดมิเนียมสุดหรู มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท แก่ลูกค้าผู้โชคดี



          ธนาคารกรุงเทพ มอบคอนโดมิเนียมสุดหรู มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท แก่ลูกค้าผู้โชคดี จากโครงการ ‘สมัครบัตรเครดิต ลุ้นรับคอนโดตากอากาศ The Energy Hua Hin’  นายโชค ณ ระนอง ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ (ขวา) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) นายสาธิต รุ่งวัฒนภักดิ์ ประธานกรรมการบริหาร (ที่ 2 จากซ้าย) และนายมณเฑียร อินทร์น้อย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซ้าย) บริษัทบ้านราชประสงค์ จำกัด ร่วมมอบรางวัลแก่ลูกค้าบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพ ผู้โชคดีจากโครงการ ‘สมัครบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพ ลุ้นรับคอนโดตากอากาศ The Energy Hua Hin’ ครั้งที่ 1 โดย นายจัสติน วิลลาจวน คอนสแตนติโน่ (ที่ 2 จากขวา) คือ ลูกค้าผู้โชคดีได้รับคอนโดมิเนียมสุดหรูขนาด 31.78 ตารางเมตร มูลค่า 2,174,000 บาท ทั้งนี้ธนาคารจะทำการจับรางวัลครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3 ในวันที่ 18 มิถุนายน และ 30 สิงหาคม 2555 ตามลำดับ รวมมูลค่า 6,522,000 บาท ลูกค้าสามารถร่วมลุ้นรับโชคได้ง่ายๆ เพียงสมัครใช้บัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม โดยจะได้รับสิทธิ์ลุ้นโชคจากยอดการใช้จ่ายทุก 1,000 บาท ทั้งนี้สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธนาคารกรุงเทพทุกสาขาทั่วประเทศ หรือบริการบัวหลวงโฟน โทร.1333 และที่เว็บไซต์ www.bangkokbank.com 


ที่มา: http://www.ryt9.com/s/prg/1423243

บทวิเคราะห์ข่าว : ธนาคารกรุงเทพ มอบคอนโดมิเนียมสุดหรูมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท แก่ผู้โชคดี จากโครงการ "สมัครบัตรเครดิต ลุ้นรับคอนโดตากอากาศ The Energy Hun Hin" ครั้งที่ 1 โดย นายจัสติน วิลลาจวน คอนสแตนติโน่ คือ ลูกค้าผู้โชคดีได้รับคอนโดมิเนียมสุดหรูขนาด 31.78 ตารางเมตร มูลค่า 2,174,000 บาท ซึ่งถือเป็นการคืนความสุขแก่ลูกค้าของธนาคารอีกช่องทางหนึ่ง อีกทั้งยังจะช่วยกระตุ้นให้ประชาชนหันมาใช้บริการจากธนาคารเพิ่มขึ้น เป็นการส่งเสริมการตลาดของธนาคารอีกช่องทางหนึ่ง




12 มิถุนายน 2555

บ้านราชประสงค์จับมือธนาคารกรุงเทพ จัดแคมเปญ " รูด ลุ้น รับ คอนโด ดิ เอนเนอร์จี้ "

       บ.บ้านราชประสงค์ ร่วมมือพันธมิตรที่แข็งแกร่ง ธนาคารกรุงเทพ สร้างสรรค์แคมเปญ “รูดปุ๊บลุ้นปั๊บรับ ดิ เอนเนอร์จี้ หัวหิน” มอบความคุ้มค่าผ่านบัตรเครดิต รับสิทธิชิง ห้องชุด ดิ เอนเนอร์จี้ หัวหิน โครงการคอนโดมิเนียมหรู ติดทะเล รวม 3 ห้องชุด มูลค่ากว่า 6 ล้านบาท     นายมณเฑียร อินทร์น้อย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านราชประสงค์ จำกัด เปิดเผยว่า “บริษัท บ้านราชประสงค์ได้ร่วมกับธนาคารกรุงเทพมอบสิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพระหว่างวันที่ 15 มกราคมถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2555 สามารถรับสิทธิชิงโชคคอนโดมิเนียม ดิ เอนเนอร์จี้ หัวหิน โครงการคอนโดหรูติดทะเล แนวคิดใหม่ของการพักอาศัยแห่งแรกของวงการอสังหาฯ ที่ปลดภาระค่าส่วนกลาง ซึ่งมักเป็นปัญหาสำหรับผู้ซื้อคอนโดมิเนียมในต่างจังหวัด โดยเก็บเพียงปีแรก 50 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน เก็บเพียงปีเดียว พร้อมตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ครบพร้อมเข้าอยู่ มูลค่ารวมกว่า 6 ล้านบาท”      

      สำหรับผู้ถือบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพที่ใช้จ่ายผ่านบัตรครบทุก 3,000 บาทจะได้รับสิทธิในการชิงโชค 1 สิทธิและผู้ถือบัตรรายใหม่ที่ใช้จ่ายผ่านบัตรครบทุก 1,000 บาทจะได้รับสิทธิในการชิงโชค 1 สิทธิ มีกำหนดจับรางวัลผู้โชคดี 3 ครั้ง ครั้งที่ 1 ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรระหว่าง 15 มกราคม ถึง 31 มีนาคม 2555 จับรางวัลไปเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2555 ครั้งที่ 2 ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรระหว่าง 1 เมษายน ถึง 31 พฤษภาคม 2555 จับรางวัลวันที่ 18 มิถุนายน 2555 ครั้งที่ 3 ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรระหว่าง 1 มิถุนายนถึง 31 กรกฎาคม 2555 จับรางวัลวันที่ 17 สิงหาคม 2555”      “ดิ เอนเนอร์จี้ หัวหิน” เป็นคอนโดหรูติดทะเลแนวคิดใหม่ของการพักอาศัยแห่งแรกของวงการอสังหาฯ คุ้มค่าสำหรับการลงทุน ด้วยการจัดเก็บค่าส่วนกลาง ปีแรก ปีเดียว ที่ 50 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน ครั้งเดียวและไม่ต้องชำระรายเดือนอีกเลยตลอดชีพ ทำให้ปลดภาระค่าส่วนกลางที่มักเป็นปัญหาสำหรับผู้ที่ซื้อที่พักในต่างจังหวัด นอกจากนั้นยังได้รับสิทธิเป็นสมาชิกสปอร์ตคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ฟรีตลอดชีพ และได้รับ The Energy Point ที่บริษัทฯ มอบให้ทุกปีเพื่อใช้แลกรับบริการต่างๆ และที่พักในโรงแรม ดิ เอนเนอร์จี้ ระดับ 5 ดาว ได้ฟรี ตลอดทุกๆ ปีโดยไม่ต้องชำระค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น โครงการออกแบบโดยผสมผสานเอกลักษณ์แห่งวันวานของหัวหินผ่านรูปแบบสถาปัตยกรรมแนวโคโลเนียล ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในยุคที่เริ่มมีการสร้างบ้านพักตากอากาศในเมืองแห่งนี้ เช่นที่ พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน มีเนื้อที่กว่า 136 ไร่ ประกอบด้วยอาคารชุดสูง 8 ชั้น จำนวน 33 อาคาร และอาคารชุดสูง 3 ชั้น จำนวน 1 อาคาร รวมทั้งสิ้น 6,000 ยูนิต โดยมีพื้นที่เปิดโล่งที่ไม่มีอาคารปกคลุมมากถึง 70% ของพื้นที่ทั้งหมด โครงการ ดิ เอนเนอร์จี้ หัวหิน ติดถนนเพชรเกษม ชะอำ-หัวหิน กม.211 โทร. 02 2535 999 และ 032-473 — 111

ที่มา : http://www.ryt9.com/s/prg/1422741

บทวิเคราะห์ข่าว :นายมณเฑียร อินทร์น้อย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านราชประสงค์ จำกัด เปิดเผยว่า " บริษัท บ้านราชประสงค์ ได้ร่วมธนาคารกรุงเทพ มอบสิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพที่ใช้จ่ายผ่านบัตรครบทุก 3,000 บาท จะได้รับสิทธิในการชิงโชค 1 สิทธิและผู้ถือบัตรรายใหม่ที่้จ่ายผ่านบ้ตรเครดิต และผู้ถือบัตรรายใหม่ที่ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตครบทุก 1,000 บาท จะได้รับสิทธิในการชิงโชค1 สิทธิ มีกำหนดจับรางวัลผู้โชคดี 3 ครั้ง ระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม 2555  ซึ่งสามารถรับสิทธิชิงโชคคอนโดมีเนียม ดิ เอนเนอร์จี้ หัวหิน  โครงการคอนโดหรูติดทะเล แนวคิดใหม่ของการพักอาศัยแห่งแรกของวงการอสังหาริมทรัพย์ ที่ปลดภาระค่าส่วนกลาง โดยเก็บเพียงปีแรก 50 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน เก็บเพียงปีเดียว พร้อมตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ครบพร้อมเข้าอยู่ มูลค่ารวมกว่า 6 ล้านบาท "

             


16 มิถุนายน 2555

โยธวาทิตไทย...Indoorยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศ


        บันทึกประวัติศาสตร์ กับการประกวดวงโยธวาทิตอินดอร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองไทย พิสูจน์ความเป็นหนึ่ง จากผู้ชมนับหมื่นคนที่หลั่งไหลมุ่งหน้าสู่เวทีขนาดใหญ่ อิมแพค อารีนา เมืองทองธานี เพื่อชมการประกวด วงโยธวาทิตธนาคารกรุงเทพ-ยามาฮ่าแห่งประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทานฯ ประจำปี 2555  14 ปี กับชื่อเสียงการประกวดวงโยธวาทิตนักเรียนไทย ได้โชว์ศักยภาพเด็กไทยในการพัฒนาทักษะฝีมือล้วนๆ สร้างชื่อเสียงก้าวสู่เวที World Championship Marching Band โดยปีนี้การแข่งขันแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ประเภท Display และ Marching โดยสุดยอดวงโยธวาทิตที่ชนะใจผู้ชมและคณะกรรมคว้าถ้วยพระราชทานฯ ประจำปี 2555 ประเภท Display ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ วงโยธวาทิตโรงเรียนเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ วงโยธวาทิตโรงเรียนหัวหินวิทยาลัย จ.ประจวบคีรีขันธ์ ระดับประถมศึกษาปีที่ 6 รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ วงโยธวาทิตโรงเรียนบ้านเวียงพาน จ.เชียงราย และประเภท Marching รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ วงโยธวาทิตโรงเรียนสุรนารีวิทยา จ.นครราชสีมา ซึ่งพิสูจน์ความเป็นหนึ่งประจักษ์แก่สายตาชาวไทยและชาวโลก
         นี่คือฝีมือของเด็กไทยล้วนๆ ที่ทัดเทียมไม่แพ้วงโยธวาทิตชาติอื่นๆ ซึ่งพิสูจน์เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาชาวไทยและชาวโลกที่สำคัญคือภาพรอยยิ้มแห่งความสำเร็จและคราบน้ำตาของความเสียใจ ความผิดหวังที่เกิดขึ้นกับเกมการแข่งขันทุกชนิด ไม่ว่าแพ้หรือชนะ หากแต่ใจที่เกินร้อย สั่งใจและบอกกับตัวเองเสมอว่า "ชัยชนะ" ไม่ใช่สิ่งสำคัญ แต่สิ่งที่พวกเขาได้มากกว่า "ชัยชนะ" ก็คือความสามัคคีและมิตรภาพที่งดงาม ระหว่างเพื่อนที่ยิ่งใหญ่เหนือกว่าสิ่งใดในโลก
 นี่คือฝีมือของเด็กไทยล้วนๆ ที่ทัดเทียมไม่แพ้วงโยธวาทิตชาติอื่นๆ ซึ่งพิสูจน์เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาชาวไทยและชาวโลกที่สำคัญคือภาพรอยยิ้มแห่งความสำเร็จและคราบน้ำตาของความเสียใจ ความผิดหวังที่เกิดขึ้นกับเกมการแข่งขันทุกชนิด ไม่ว่าแพ้หรือชนะ หากแต่ใจที่เกินร้อย สั่งใจและบอกกับตัวเองเสมอว่า "ชัยชนะ" ไม่ใช่สิ่งสำคัญ แต่สิ่งที่พวกเขาได้มากกว่า "ชัยชนะ" ก็คือความสามัคคีและมิตรภาพที่งดงาม ระหว่างเพื่อนที่ยิ่งใหญ่เหนือกว่าสิ่งใดในโลก

ที่มา:http://www.ryt9.com/s/bmnd/1425665

บทวิเคราะห์ข่าว : นับเป็นโครงการดีๆ ที่ธนาคารกรุงเทพ ได้มีส่วนช่วยสนับสนุนและส่งเสริมให้เยาวชนได้มีการทำกิจกรรมใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ รู้จักฝึกฝนความอดทนและรู้จักการทำงานเป็นทีม สร้างมิตรภาพและความสามัคคีในหมู่คณะ เป็นการแสดงให้ชาวโลกได้เห็นถึงความสามารถของเยาวชนไทย นำมาซึ่งชื่อเสียงแก่ประเทศไทยอีกด้วย



                

11 มิถุนายน 2555

ธนาคารกรุงเทพ เสนอทางเลือกสำหรับลูกค้าเงินฝาก ด้วยผลิตภัณฑ์เงินฝากประจำ 11 เดือน ดอกเบี้ย 3.00% ต่อปี


        
         ธนาคารกรุงเทพ มอบข้อเสนอพิเศษเงินฝากประจำ ระยะเวลาการฝาก 11 เดือน ด้วยอัตราดอกเบี้ยสูง 3.00% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยเมื่อครบกำหนดระยะเวลาการฝาก เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับลูกค้าเงินฝาก เริ่มตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน – 12 กรกฎาคม 2555

         ดร.ทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารได้
สร้างสรรค์กิจกรรมเชิญชวนกลุ่มลูกค้าทั่วไปที่มีถิ่นฐานอยู่ในประเทศไทย ด้วยข้อเสนอใหม่ล่าสุดกับบัญชีเงินฝาก ระยะเวลา 11 เดือน อัตราดอกเบี้ย 3.00% ต่อปี เปิดบัญชีด้วยจำนวนเงินขั้นต่ำ 200,000 บาท และนำฝากแต่ละยอดเงินฝากไม่ต่ำกว่า 200,000 บาท ให้บริการในช่วงระยะเวลาระหว่างวันอังคารที่ 12 มิถุนายน – วันพฤหัสบดีที่ 12 กรกฎาคม 2555
         เงินฝากประจำ 11 เดือน เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับลูกค้าที่สนใจในผลิตภัณฑ์ทางด้านการออม ซึ่งนอกจากเงินฝากประจำประเภทดังกล่าวแล้ว ธนาคารยังมีผลิตภัณฑ์เงินฝากประจำพิเศษระยะเวลา 4 เดือน อัตราดอกเบี้ย 2.625% ต่อปี ที่ได้ขยายระยะเวลาการรับฝากออกไปจนถึงวันจันทร์ที่ 25 มิถุนายน 2555 ตามคำเรียกร้องของลูกค้าเงินฝาก โดยยังคงเงื่อนไขเดิมด้วยยอดเงินเปิดบัญชีขั้นต่ำเพียง 200,000 บาท ซึ่งธนาคารจะจ่ายดอกเบี้ยเมื่อครบระยะเวลาการฝาก ทั้งนี้ ลูกค้าที่สนใจสามารถเปิดบัญชีเงินฝากทั้งสองประเภทได้ที่ธนาคารกรุงเทพทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บัวหลวงโฟน โทร.1333


ที่มา:http://www.bangkokbank.com/bangkok%20bank%20Thai/about%20bangkok%20bank/about%20us/media%20room/2012/June/Pages/PressRelease11June.aspx

บทวิเคราะห์ข่าว : เศรษฐกิจของประเทศไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันได้มีการเปลี่ยนแปลงและได้พัฒนาขึ้นหลายด้านโดยเฉพาะภาคการเงินการธนาคารที่เข้มแข็งขึ้น เนื่องจากเคยได้รับบทเรียนมาแล้วในอดีตจากเหตุการณ์วิกฤตเศรษฐกิจในปี 2540 จึงทำให้การดำเนินนโยบายต่างๆของธนาคารแห่งประทศไทยที่ควบคุมธนาคารพาณิชย์เข้มงวดขึ้น ปัจจุบันการแข่งขันของธนาารพาณิชย์จึงเริ่มดุเดือดขึ้น หลายธนาคารได้นำกลยุทธ์ต่างๆมาใช้ โดยเฉพาะดอกเบี้ยเงินฝากที่มีทั้งฝากประจำ และออมทรัพย์ที่แต่ละธนาคารเสนอโปรโมชั่นพิเศษให้แก่ลูกค้าของธนาคารและดึงดูดลูกค้าของธนาคารอื่นมาให้ใช้บริการของธนาคารมากขึ้น และนี่ก็เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดอย่างหนึ่งของธนาคารกรุงเทพ



5 มิถุนายน 2555


ธนาคารกรุงเทพ มอบวุฒิบัตรแก่นักศึกษา SIP รุ่นที่ 57 พร้อมปิดโครงการฝึกอบรมพิเศษ “ธนาคารคู่บ้านคู่เมือง” ประจำปี 2555



            นายปิติ สิทธิอำนวย กรรมการธนาคาร (ที่ 6 จากซ้าย) นายสิงห์ ตังทัตสวัสดิ์ กรรมการบริหาร (ที่ 6 จากขวา) นายอมร จันทรสมบูรณ์ กรรมการบริหาร (ที่ 5 จากซ้าย) นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ซ้าย) และนายปิยะ ซอโสตถิกุล ที่ปรึกษา (ขวา) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ร่วมพิธีปิดและมอบวุฒิบัตรแก่นักศึกษาที่ร่วมโครงการฝึกอบรมพิเศษ “ธนาคารคู่บ้านคู่เมือง” (Student Internship Program - SIP) รุ่นที่ 57 ประจำปี 2555 นับเป็นโครงการที่ธนาคารได้จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 33 ปีละ 2 รุ่น ประกอบด้วยหลักสูตรภาษาไทย และหลักสูตรภาษาอังกฤษ เพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษาชั้นปีที่ 3 ในระดับปริญญาตรีถึงปริญญาเอกที่ศึกษาในสถาบันการศึกษาภายในและต่างประเทศ เข้าร่วมการอบรมและรับประสบการณ์ตรงจากการเรียนรู้ด้านธุรกิจการเงินการธนาคาร พร้อมเปิดโอกาสให้นักศึกษาร่วมระดมความคิดและนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการ ด้วยการวางแผนการดำเนินงาน แผนการลงทุน แผนการตลาด วิเคราะห์จุดเด่นจุดอ่อนของการดำเนินธุรกิจอย่างรัดกุมและสามารถนำไปใช้ดำเนินธุรกิจได้จริง โครงการดังกล่าวได้รับการยอมรับจากองค์กรธุรกิจชั้นนำและมีนักศึกษาประสงค์เข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนมากในทุกปี



บทวิเคราะห์ข่าว : โครงการฝึกอบรมพิเศษ "ธนาคารคู่บ้าน คู่เมือง " ของธนาคารกรุงเทพ ได้จัดทำขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้เข้าร่วมอบรม และได้รับประสบการณ์จากการเรียนรู้ด้านธุรการการเงินการธนาคาร โดยให้นักศึกษาได้คิดและเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการด้วยการวางแผนต่างๆ พร้อมเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการด้วยการวางแผนต่างๆ พร้อมทั้ง สามารถวิเคราะห์จุดเด่น จุดอ่อน ของการดำเนินธุรกิจได้ จึงเป็นสิ่งที่ดีที่ธนาคารกรุงเพทะได้จัดโครงการนี้สามารถนำความรู้ไปใช้ได้จริงในอนาคต นับเป็นการพัฒนาบุคลกรภาคการเงิน การธนาคารของไทยในอนาคต 



1 มิถุนายน 2555


ธนาคารกรุงเทพ เปิดตัวแคมเปญโฆษณา “ทุกความสุขยิ่งใหญ่เสมอ” นำเสนอเรื่องราวความใส่ใจของธนาคารที่มีต่อทุกกลุ่มลูกค้า




        ธนาคารกรุงเทพ เปิดตัวแคมเปญโฆษณาชุดใหม่ “ทุกความสุขยิ่งใหญ่เสมอ” นำเสนอเรื่องราวความใส่ใจของธนาคารที่มีต่อลูกค้า ด้วยแนวคิดหลักที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการดูแลเอาใจใส่ทุกกลุ่มลูกค้าของธนาคารอย่างต่อเนื่อง นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารได้เปิดตัวแคมเปญโฆษณาชุดใหม่ “ทุกความสุขยิ่งใหญ่เสมอ” ให้ปรากฏสู่สาธารณชนทั่วประเทศ โดยสะท้อนภาพความสุขที่น่าประทับใจในหลากหลายรูปแบบของคนในต่างวิถีชีวิต เพื่อสื่อเป็นนัยให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างธนาคารและลูกค้ากลุ่มต่างๆ ในสังคมไทย ความมุ่งมั่นในการดูแลเอาใจใส่ลูกค้าของธนาคารอย่างต่อเนื่อง ในฐานะที่เป็นธนาคารชั้นนำของไทยที่อยู่เคียงข้างลูกค้า และมีส่วนช่วยสรรค์สร้างสังคมไทยให้เข้มแข็งมาตลอดระยะเวลาเกือบ 7 ทศวรรษ ธนาคารให้ความสำคัญกับสายสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด และแน่นแฟ้นกับลูกค้า โดยนำเอาเจตนารมย์ของการเป็น “เพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน” ที่คอยดูแลและสนับสนุนลูกค้าในทุกๆ ช่วงชีวิตมาตีความและนำเสนอเป็นภาพยนตร์โฆษณาในแง่มุมใหม่ สื่อความในประเด็น “ทุกความสุขยิ่งใหญ่เสมอ” ซึ่งหมายถึงการที่ธนาคารเข้าใจ และรับฟัง ทั้งยังชื่นชม และมองเห็นถึงความสุขต่างๆ ในชีวิตของทุกท่าน แม้จะเล็กน้อยเพียงใดก็ตาม โดยธนาคารเองก็มีส่วนร่วมในความสุขนี้ด้วย สำหรับภาพยนตร์โฆษณาภายใต้แคมเปญชุดใหม่นี้มีทั้งหมด 4 เรื่อง ที่ล้วนนำเสนอเรื่องราวความสุขเล็กๆ ในชีวิตประจำวันของคนไทย ทั้งพ่อไปรับลูกชายกลับจากโรงเรียนอนุบาล เรื่อง “เดินกลับบ้าน” คู่รักกับเหตุการณ์ไม่คาดคิดในร้านอาหาร เรื่อง “ไข่ดาว” สองสาวนักช้อปที่ชอบของชิ้นเดียวกัน เรื่อง “เก็บเสื้อ” และคนรุ่นใหม่ในออฟฟิศที่พยายามบอกความในใจกับเพื่อนร่วมงาน เรื่อง “เหลาดินสอ” ซึ่งสามารถกล่าวได้ว่าทุกเรื่องล้วนนำเสนอเหตุการณ์เล็กๆ ที่สามารถเข้าถึงและโดนใจผู้ชมทุกกลุ่ม นายชาติศิริ กล่าวเพิ่มเติมว่า ธนาคารกรุงเทพตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงและความต้องการบริการทางการเงินของลูกค้าที่มีความซับซ้อนและมากขึ้นมาโดยตลอด ซึ่งนอกจากผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินใหม่ๆ แล้ว ลูกค้ายังคาดหวังให้ธนาคารเข้าใจถึงความต้องการที่มีมากขึ้น รวมถึงแนวโน้มที่ความต้องการดังกล่าวจะเปลี่ยนแปลงไปในอนาคตด้วย ดังนั้นบทบาทความเป็นธนาคารจึงมิได้จำกัดอยู่เพียงการดูแลเรื่องการเงินและฐานะทางเศรษฐกิจของลูกค้า หากยังรวมถึงความสัมพันธ์ของธนาคารกับลูกค้า และคนทั่วไป ซึ่งสามารถพบได้ในชีวิตประจำวัน เพื่อสื่อให้ผู้ชมรับรู้ว่า ธนาคารกรุงเทพ เป็นส่วนหนึ่งของสังคม และอยู่เคียงข้างในทุกช่วงชีวิตจนสามารถมองเห็นถึงความสุขเล็กๆ ในชีวิตประจำวันเหล่านี้ได้ 
       ด้านนายสุทธิศักดิ์ สุจริตตานนท์ ประธานกรรมการ บริษัท บีบีดีโอ กรุงเทพ จำกัด ผู้สร้างสรรค์ภาพยนตร์โฆษณาชุดดังกล่าวของธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า จุดเด่นที่จะทำให้ผู้ชมสามารถจดจำภาพโฆษณาชุดนี้ได้คือรูปแบบการนำเสนอที่แตกต่างจากโฆษณาธนาคารทั่วๆ ไป   “แคมเปญโฆษณาชุดนี้จึงได้ใช้กลยุทธ์ในการเล่าเรื่องราวเพียงบางส่วนของสถานการณ์ทั้งหมด โดยหยิบยกเหตุการณ์จากชีวิตประจำวันของคนทั่วๆ ไป อีกทั้งเป็นการรับรู้กันดีอยู่แล้วว่าธนาคารกรุงเทพอยู่คู่ประชาชนมาโดยตลอด โฆษณาชุดนี้จึงต้องการเน้นย้ำว่า ธนาคารอยู่เคียงข้างสังคมและวิถีชีวิตของคนไทยทั่วประเทศมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน”

ที่มา:http://www.bangkokbank.com/bangkok%20bank%20Thai/about%20bangkok%20bank/about%20us/media%20room/2012/June/Pages/PressRelease1Jun.aspx


บทวิเคราะห์ข่าวธนาคารกรุงเทพได้เปิดตัวแคมเปญโฆษณาชุดใหม่ “ทุกความสุขยิ่งใหญ่เสมอ” ให้ปรากฏสู่สาธารณชนทั่วประเทศ โดยสะท้อนภาพความสุขที่น่าประทับใจในหลากหลายรูปแบบของคนในต่างวิถีชีวิต  ธนาคารได้ให้ความสำคัญกับสายสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับลูกค้า  โดยการที่เอาเจตนารมย์ของการเป็น เพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน  ตีความและได้นำเสนอเป็นภาพยนต์โฆษณาในแง่มุนใหม่   สื่อถึง “ ทุกความสุขยิ่งใหญ่เสมอ”  สำหรับภาพยนตร์โฆษณาภายใต้แคมเปญชุดใหม่นี้มีทั้งหมด 4 เรื่อง ที่ล้วนนำเสนอเรื่องราวความสุขเล็กๆ ในชีวิตประจำวันของคนไทย     ดังนั้น  “แคมเปญโฆษณาชุดนี้จึงได้ใช้    กลยุทธ์ในการเล่าเรื่องราวโดยหยิบยกเหตุการณ์จากชีวิตประจำวันของคนทั่วๆ ไป  โฆษณาชุดนี้จึงต้องการเน้นย้ำว่า ธนาคารอยู่เคียงข้างสังคมและวิถีชีวิตของคนไทยทั่วประเทศมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน”




29 พฤษภาคม 2555

ธนาคารกรุงเทพ สนับสนุน “World Economic Forum on East Asia 2012” กรุงเทพฯ ขอต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุมจากนานาชาติ ระหว่าง 30 พ.ค. – 1 มิ.ย. นี้




       ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ร่วมให้การสนับสนุนหลักด้านการประชาสัมพันธ์การประชุมเวทีเศรษฐกิจโลกว่าด้วยเอเชียตะวันออก “World Economic Forum on East Asia 2012” ในหัวข้อ Let’s Shape the Region’s Future ขอต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุมจากนานาชาติทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ที่จะมีขึ้นระหว่างวันพุธที่ 30 พฤษภาคม ถึงวันศุกร์ที่ 1 มิถุนายน 2555 ณ โรงแรมแชงกรี-ล่า กรุงเทพมหานคร โดยประชาคมระหว่างประเทศกำลังหันความสนใจมาที่ประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพจัดการประชุม สิ่งที่ทุกฝ่ายกำลังเฝ้าติดตามคือ การประชุมครั้งนี้จะมีข้อเสนอแนะหรือข้อคิดเห็นอย่างไรต่ออนาคตของภูมิภาค โดยประเด็นคำถามดังกล่าวจะเป็นที่ถกเถียงและหารือแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกันระหว่างผู้เข้าร่วมกว่า 700 คน จากกว่า 40 ประเทศ ที่ประกอบไปด้วยผู้นำประเทศและรัฐมนตรีต่างๆ กว่า 20 คน โดยนายกรัฐมนตรีจะกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีเปิดการประชุม นับเป็นโอกาสสำคัญของไทยที่จะแสดงวิสัยทัศน์แก่บุคคลสำคัญและประชาคมระหว่างประเทศได้รับทราบด้วย

ที่มา:http://www.bangkokbank.com/bangkok%20bank%20Thai/about%20bangkok%20bank/about%20us/media%20room/2012/May/Pages/PressRelease29May.aspx


บทวิเคราะข่าว : ในฐานะที่  ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)  เป็นผู้สนักสนุนหลักในด้านประชาสัมพันธ์ในการประชุมเศรษฐกิจโลกว่าด้วยเอเชียตะวันออก“World Economic Forum on East Asia 2012” ในหัวข้อ Let’s Shape the Region’s Future โดยประชาคมระหว่างประเทศหันมาสนใจที่ประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพการประชุม ครั้งนี้ถือว่าเป็นโอกาสสำคัญของไทยที่จะได้แสดงวิสัยทัศน์บุคคลสำคัญและประชาคมระหว่างประเทศได้รับทราบกัน



28 พฤษภาคม 2555

ธนาคารกรุงเทพ ร่วมกับ ธนาคารโออิตะ กระชับสัมพันธ์ธุรกิจ สนับสนุนลูกค้าผู้ประกอบการญี่ปุ่นลงทุนในไทย





          นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ขวา) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ลงนามร่วมกับ มร.โชจิ ฮิเมโนะ ประธาน (ซ้าย) ธนาคารโออิตะ ประเทศญี่ปุ่น ในบันทึกข้อตกลงร่วมกัน โดยธนาคารกรุงเทพจะให้การสนับสนุนลูกค้าผู้ประกอบการของธนาคารโออิตะที่สนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ด้วยข้อมูลด้านการเมือง เศรษฐกิจ และการเงินของประเทศไทย พร้อมให้บริการทางการเงินและคำปรึกษาที่จะช่วยให้การเริ่มต้นดำเนินกิจการในประเทศไทยของลูกค้าญี่ปุ่นเป็นไปอย่างง่ายดาย ทั้งนี้ ด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพเศรษฐกิจและสังคมในประเทศญี่ปุ่น อาทิ ภาวะเงินฝืด ค่าเงินเยนปรับตัวสูงขึ้น ทำให้บริษัทต่างๆ ในญี่ปุ่นแข่งขันกันปรับลดราคาสินค้า ส่งผลให้ธุรกิจทำกำไรได้น้อยลง จึงทำให้บริษัทญี่ปุ่นเริ่มสนใจมองหาช่องทางการผลิตและการจำหน่ายสินค้าในต่างประเทศมากขึ้น โดยประเทศไทยนับเป็นประเทศที่นักลงทุนญี่ปุ่นให้ความสนใจ ประกอบกับ ธนาคารกรุงเทพเป็นสถาบันการเงินที่มีเครือข่ายสาขาครอบคลุมทุกประเทศในภูมิภาคอาเซียน

บทวิเคราะห์ข่าว : จากข่าวข้างต้น เป็นการร่วมลงนามข้อตกลงของนายชาติศิริ โสภณพานิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงเทพกับ มร.โชจิ ฮิเมโนะ ประธานธนาคารโออิตะ ประเทศญี่ปุ่น  ซึ่งในบันทึกข้อตกลงนั้นธนาคารกรุงเทพจะให้ข้อสนับสนุนลูกค้าผู้ประกอบการของธนาคารโออิตะที่สนใจ เข้ามาลงทุนกับธนาคารกรุงเทพก็เพราะการเปลี่ยนแปลงของสภาพเศรษฐกิจและสังคมในประเทศญี่ปุ่น จึงทำให้บริษัทญี่ปุ่นเริ่มหาช่องทางการผลิตและการจำหน่ายสินค้าในต่างประเทศมากขึ้น โดยประเทศไทยนับเป็นประเทศที่นักลงทุนญี่ปุ่นให้ความสนใจประกอบกับ ธนาคารกรุงเทพเป็นสถาบันการเงินที่มีเครือข่ายสาขาครอบคลุมทุกประเทศในภูมิภาคอาเซียน


24 พฤษภาคม 2555


ธนาคารกรุงเทพ จับมือ กทพ. เปิดให้บริการเติมเงินบัตร Easy Pass พร้อมมอบข้อเสนอพิเศษยกเว้นค่าธรรมเนียม


           ดร.ทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ (ที่ 3 จากขวา) นางชูพร จันทรวิชชัย ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่
(ที่ 2 จากขวา) และนายการุณ อัศวฉัตรโรจน์ เจ้าหน้าที่บริหารระดับ Senior Vice President กลุ่มงานบริการ Cash Management (ขวา) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ลงนามร่วมกับ นายอัยยณัฐ ถินอภัย ผู้ว่าการ (ที่ 3 จากซ้าย) นายมณเฑียร กุลธำรง รองผู้ว่าการฝ่ายปฏิบัติการ (ที่ 2 จากซ้าย) และนายณรงค์ เขียดเดช รองผู้ว่าการฝ่ายบริหาร (ซ้าย) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย ในบันทึกข้อตกลงโครงการเติมเงินบัตร Easy Pass สำหรับการใช้บริการระบบเก็บค่าผ่านทางพิเศษอัตโนมัติ ผ่านตู้บัวหลวงเอทีเอ็ม และบัวหลวง ไอแบงก์กิ้ง เพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มช่องทางให้กับลูกค้าผู้ถือบัตร Easy Pass และใช้บริการทางพิเศษ ตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยขั้นตอนที่ง่าย รวดเร็ว ปลอดภัย ซึ่งพร้อมให้บริการตั้งแต่วันนี้ โดยธนาคารมอบข้อเสนอพิเศษยกเว้นค่าธรรมเนียมบริการสำหรับลูกค้าที่ทำรายการผ่านทั้ง 2 ช่องทางของธนาคารกรุงเทพ ตั้งแต่วันนี้จนถึงสิ้นเดือนสิงหาคม 2555



บทวิเคราะห์ : จากข่าวคิดว่าทางธนาคารกรุงเทพ ได้มีการเปิดให้บริการตามข้อตกลงโครงการบัตรเติมเงิน Easy Pass ( สำหรับการใช้บริการระบบเก็บค่าผ่านทางพิเศษอัตโนมัติ ผ่านตู้บัวหลวงเอทีเอ็มและบัวหลวง ไอแบงก์กิ้ง ) เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการที่ถือบัตร พร้อมทั้งได้มอบสิทธิพิเศษให้แก่ลูกค้า