This is default featured slide 1 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 2 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 3 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 4 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 5 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

วันจันทร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2555

ธนาคารกรุงเทพ



       
                                     ทุกความสุข ..ยิ่งใหญ่เสมอ :)


     ธนาคารกรุงเทพมีฐานะการเงินมั่นคงเป็นอันดับ 1 ในประเทศไทย และเป็นหนึ่งในธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียอาคเนย์ และในวันนี้ ธนาคารกรุงเทพก็ยังคงยึดมั่นในภาระหน้าที่ของ ‘เพื่อนคู่คิด’ ที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างลูกค้าเพื่อคอยให้การสนับสนุนในทุกย่างก้าวสำคัญของชีวิตตลอดไป

17 กันยายน 2555


ฟิทช์ให้อันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีหลักประกันสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐของธนาคารกรุงเทพที่ ‘BBB+’


         ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศให้อันดับเครดิต ‘BBB+’ แก่หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ของธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL (‘BBB+’/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) หุ้นกู้ดังกล่าวจะออกโดยสาขาของ BBL ในฮ่องกง เงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้จะนำไปใช้ในการดำเนินกิจการทั่วไปของธนาคาร
         อันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน อยู่ที่ระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (Long-Term Foreign Currency Issuer Default Rating) ของ BBL ที่ ‘BBB+’ โดยอันดับเครดิตของ BBL สะท้อนถึงระดับเงินกองทุนและความสามารถในการทำกำไรที่อยู่ในระดับดี คุณภาพสินทรัพย์และสำรองหนี้สูญที่อยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง และการมีเครือข่ายธุรกิจ (franchise) ในประเทศที่แข็งแกร่ง ฟิทช์เชื่อว่าฐานะทางการเงินโดยรวมของ BBL น่าจะแข็งแกร่งเพียงพอที่จะรองรับผลกระทบจากการปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงของคุณภาพสินเชื่อได้
BBL เป็นธนาคารที่มีขนาดสินทรัพย์รวมใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยมีส่วนแบ่งการตลาดของสินเชื่อที่ 18% และ ส่วนแบ่งการตลาดของเงินฝากที่ 20% ณ สิ้นมิถุนายน 2555 ธนาคารมีเครือข่ายธุรกิจที่แข็งแกร่งในกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และลูกค้าธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และมีการขยายธุรกิจไปในกลุ่มลูกค้ารายย่อยอย่างต่อเนื่อง BBL มี 1,077 สาขาในประเทศและมี 25 สาขาในต่างประเทศรวมทั้งหนึ่งสำนักงานตัวแทนซึ่งตั้งอยู่ใน 13 เขตเศรษฐกิจ โดยส่วนใหญ่อยู่ในภูมิภาคเอเซีย

วิเคราะห์ข่าว : 

13 กันยายน 2555


ธนาคารกรุงเทพ ร่วมเป็นเจ้าภาพงานเสวนาระดับผู้นำ ‘Myanmar Global Investment Forum’ ประเทศเมียนมาร์



          นายชาญศักดิ์ เฟื่องฟู กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ (ที่ 7 จากซ้าย) พร้อมคณะผู้บริหารระดับสูง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ในฐานะเจ้าภาพงานเสวนาระดับผู้นำ ‘Myanmar Global Investment Forum: Progress, Potential and Promise’ ซึ่งจัดโดยนิตยสารยูโรมันนี่ ระหว่างวันที่ 12-13 กันยายน 2555 ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติเมียนมาร์ เมืองเนปีดอว์ ประเทศเมียนมาร์ นำผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ทั้งด้านการเงิน การค้า การลงทุน ลูกค้านักธุรกิจจากประเทศไทย และพันธมิตรทางธุรกิจ เข้าร่วมสัมมนาในหัวข้อ ‘Banking Sector Development and Market Opening’ และสัมมนากลุ่มย่อยในหัวข้อ ‘What Should Foreign Investors Know About The Myanmar Foreign Investor Law?’ เพื่อเป็นข้อมูลในการกำหนดกลยุทธ์ด้านการค้าการลงทุนของลูกค้าที่สนใจในประเทศเมียนมาร์ ทั้งนี้ ธนาคารกรุงเทพหนึ่งในผู้สนับสนุนการจัดงาน ในฐานะธนาคารพาณิชย์ไทยที่มีสำนักงานผู้แทนย่างกุ้งมานานกว่า 17 ปี และธนาคารเครือข่ายในเมียนมาร์อีก 6 แห่ง ปัจจุบันธนาคารกรุงเทพมีเครือข่ายสาขาในต่างประเทศกว่า 26 แห่งใน 13 เขตเศรษฐกิจทั่วโลก ซึ่งส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศจีน ที่พร้อมให้การสนับสนุนการค้าการลงทุนระหว่างประเทศ ด้วยประสบการณ์และความเข้าใจในการดำเนินธุรกิจในแต่ละประเทศอย่างยาวนานและลึกซึ้ง

วิเคราะห์ข่าว :

วันพุธที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2555

10 กันยายน 2555

ธนาคารกรุงเทพ ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการ 99 ปี ด้วยความเชื่อมั่นของ
ธนาคารกลางประเทศเวียดนาม


        ธนาคารกรุงเทพ สาขาประเทศเวียดนาม ได้รับความเชื่อมั่นจากธนาคารกลางแห่งชาติสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม มอบใบอนุญาตดำเนินกิจการธนาคารอายุ 99 ปี ภายหลังจากใบอนุญาตล่าสุดที่มีอายุ 20 ปี ครบอายุในปีนี้ ด้วยระยะเวลามากกว่า 50 ปี ที่เปิดให้บริการในประเทศเวียดนาม สามารถสะท้อนความมั่นคงแข็งแกร่ง ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจ การเงินการธนาคารในเวียดนาม พร้อมรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนได้เป็นอย่างดี

       นายไชยฤทธิ์ อนุชิตวรวงศ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า นับเป็นความยินดีอย่างยิ่งที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาประเทศเวียดนาม ได้รับความเชื่อมั่นจากธนาคารแห่งชาติสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามมอบใบอนุญาตประกอบกิจการธนาคารในเวียดนามอายุ 99 ปี นับเป็นธนาคารต่างประเทศที่ได้รับใบอนุญาตเป็นระยะเวลายาวนานสูงสุด ต่อเนื่อง จากใบอนุญาตฉบับก่อนหน้านี้ที่มีอายุ 20 ปี ที่ครบอายุในปี
พ.ศ.2555 นี้ ส่งผลให้ธนาคารกรุงเทพทั้ง 2 สาขาในประเทศเวียดนาม ได้แก่สาขาโฮจิมินห์ซิตี้ และสาขาฮานอย สามารถให้บริการลูกค้าภายใต้ใบอนุญาตฉบับดังกล่าวได้ถึงปีพ.ศ.2654

       "การได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการธนาคารที่มีอายุ 99 ปี ในครั้งนี้ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของธนาคารแห่งชาติสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามที่มีต่อการเปิดให้บริการของธนาคารในช่วงที่ผ่านมาด้วยประสบการณ์มากกว่า 50 ปี ในประเทศเวียดนาม ธนาคารกรุงเทพได้รับการยอมรับตลอดจนความไว้วางใจจากประชาชนและทางการเป็นอย่างดี อีกทั้งธนาคารแห่งชาติสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามได้มอบรางวัลเกียรติคุณ (Certificate of Merit) ให้กับธนาคารกรุงเทพ "เพื่อยกย่องความสำเร็จอันโดดเด่นและผู้นำด้านการธนาคาร" ในปีพ.ศ.2551-2553"

นายไชยฤทธิ์ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า สำหรับในประเทศเวียดนาม ธนาคารกรุงเทพได้เริ่มเปิดให้บริการสาขาไซง่อนในปีพ.ศ.2504 ก่อนหยุดให้บริการเนื่องจากภาวะสงครามในปีพ.ศ.2518 ภายหลังสงครามสิ้นสุดธนาคารกรุงเทพถือเป็นธนาคารต่างประเทศแห่งแรกที่สามารถกลับไปเปิดให้บริการที่สาขาโฮจิมินห์ซิตี้ในปีพ.ศ.2535 และสาขาฮานอย ในปีพ.ศ.2537 ปัจจุบันมีนายธาราบดี ซึ้งอดิชัยวิทย์ ผู้จัดการทั่วไป สาขาประเทศเวียดนาม รับผิดชอบคอยดูแลและให้บริการ ด้วยความมั่นคงแข็งแกร่ง ความรู้ความเข้าใจ เครือข่ายความสัมพันธ์ทั้งกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ ทำให้ธนาคารสามารถตอบสนองความต้องการให้กับลูกค้าทุกกลุ่มได้อย่างครบวงจร ครอบคลุมทั้งลูกค้าชาวไทยที่อาศัยอยู่ในเวียดนาม ลูกค้าชาวเวียดนาม และนักลงทุนต่างประเทศที่ต้องการใช้โอกาสการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ขยายกิจการสู่เวียดนาม ซึ่งธนาคารมีความพร้อมเป็นอย่างยิ่งที่จะช่วยสนับสนุนให้การดำเนินธุรกิจของลูกค้าในเวียดนามเป็นไปอย่างราบรื่น และเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจที่ลูกค้าได้ขยายการลงทุนไปยังประเทศต่างๆ ให้เป็นหนึ่งเดียว

       "การขยายเครือข่ายสาขาในต่างประเทศ นับเป็นหนึ่งในนโยบายหลักของธนาคาร ที่มุ่งมั่นตอบสนองความต้องการให้กับลูกค้าที่กระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาค ปัจจุบันธนาคารมีเครือข่ายสาขาจำนวน 26 แห่ง ใน 13 เขตเศรษฐกิจทั่วโลก ทั้งในรูปแบบที่เป็นสาขาของธนาคาร หรือธนาคารท้องถิ่นในประเทศ รวมไปถึงสำนักงาน
ผู้แทน ด้วยเครือข่ายสาขาที่กว้างขวางและมั่นคงนี้ทำให้ธนาคารกรุงเทพ เป็นหนึ่งในธนาคารชั้นนำของภูมิภาค
ที่มีความพร้อมสูงสุด สำหรับรองรับการหลอมรวมกันทางเศรษฐกิจของภูมิภาคอาเซียนในอนาคต"


วิเคราะห์ข่าว : การที่ธนาคารกรุงเทพได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการธนาคารที่มีอายุ 99 ปี ในครั้งนี้ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของธนาคารแห่งชาติสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามที่มี ต่อการเปิดให้บริการของธนาคารในช่วงที่ผ่านมา ในประเทศเวียดนาม ธนาคารกรุงเทพได้รับการยอมรับตลอดจนความไว้วางใจจากประชาชนและทางการเป็นอย่างดี โดยธนาคารได้มีการขยายเครือข่ายสาขาในต่างประเทศ เป็นหนึ่งในนโยบายหลักของธนาคาร ที่มุ่งมั่นตอบสนองความต้องการให้กับลูกค้าที่กระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาค นับได้ว่าเป็นความสำเร็จของธนาคารในระดับหนึ่ง

3 กันยายน 2555

ธนาคารกรุงเทพ เปิดที่ทำการสำนักงานผู้แทนแห่งใหม่ ได้รับเกียรติจากผู้ว่าการแบงก์ชาติไทยเป็นประธาน



           นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (กลาง) ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดที่ทำการแห่งใหม่ของสำนักงานผู้แทนธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กรุงย่างกุ้ง ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ภายในบริเวณโรงแรม ชาเทรียม รอยัลเลคย่างกุ้ง กรุงย่างกุ้ง ประเทศเมียนมาร์ โดยมีนางสาวศศิมา มุนีมงคลทร ผู้จัดการฝ่ายอำนวยการสาขาต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (ซ้าย) ให้การต้อนรับและนำชม โดยสำนักงานตัวแทนในย่างกุ้งนี้ธนาคารกรุงเทพได้รับใบอนุญาตจากรัฐบาลเมียนมาร์มาตั้งแต่ปีพ.ศ.2538 ด้วยประสบการณ์ที่มีมาอย่างยาวนานมากกว่า 17 ปี รวมกับเครือข่ายธนาคารพันธมิตรของธนาคารกรุงเทพในเมียนมาร์ที่เป็นธนาคารของรัฐบาล 2 แห่ง และธนาคารเอกชนสัญชาติเมียนมาร์ 4 แห่ง รวมทั้งสิ้น 6 แห่ง ธนาคารกรุงเทพพร้อมให้บริการและสนับสนุนการดำเนินงานของลูกค้านักธุรกิจและนักลงทุนในประเทศไทยและต่างประเทศที่ต้องการเข้าไปลงทุน และใช้บริการด้านธุรกรรมทางการเงินในประเทศเมียนมาร์ได้ทุกความต้องการและสะดวกยิ่งขึ้น รวมถึงเครือข่ายกว่า 1,000 สาขาในประเทศไทย และอีก 26 แห่ง ใน 13 เขตเศรษฐกิจทั่วโลก ได้แก่ ฮ่องกง อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น ลาว ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไต้หวัน สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา เวียดนาม จีน มาเลเซีย และเมียนมาร์

วิเคราะห์ข่าว : ธนาคารกรุงเทพได้เปิดสำนักงานผู้แทนธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ในกรุงย่างกุ้ง ครั้งนี้เพื่อให้บริการทางการเงินกับลูกค้านักธุรกิจไทยและต่างชาติที่ไปลงทุนในเมียนมาร์ แสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี  2558

วันจันทร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2555

ข่าวเด่นประจำสัปดาห์ครั้งที่ 4 (26-31 ส.ค. 2555)


ปิดอบรม AEC : วันที่ 28 สิงหาคม 2555


         สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ ร่วมกับ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ปิดอบรมโครงการพัฒนาศักยภาพผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจระดับสูง (พศส.) หลักสูตร : เสริมสร้างความรู้เกี่ยวกับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 สำหรับผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ (36 ชั่วโมง ) ซึ่งสมาคมฯได้รับเกียรติจาก คุณโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เป็นประธานปิดโครงการพร้อมมอบใบประกาศนียบัตรให้กับผู้เข้าร่วมอบรม โดยมี คุณพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) คุณอมรรัตน์ จรูญสมิทธิ์ นายกสมาคมฯ พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ร่วมในพิธี วันเสาร์ที่ 25 ส.ค.2555 ณ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

ที่มา : http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9550000105368

30 สิงหาคม 2555


บลจ.บัวหลวงเปิดตัวแอพพลิเคชั่นล่าสุด "Bualuang Funds: iBuddy"สำหรับ iPhone และ iPad ย่อโลกการเงิน-การลงทุนไว้ในมือ
          นางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุน บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้พัฒนาแอพพลิเคชั่นล่าสุด "Bualuang Funds: iBuddy" ขึ้นสำหรับ iPhone และ iPad เพื่อให้นักลงทุนทั่วไปเข้าถึงข้อมูลการลงทุนได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้นเพื่อ เป็นการเสริมนโยบายที่จะสนับสนุนให้คนไทยอ่านออกเขียนได้ทางการเงิน (Financial Literacy) อีกช่องทางหนึ่ง ซึ่งน่าจะตอบสนอง Lifestyle ของคนเมืองได้เป็นอย่างดี
นายวศิน วัฒนวรกิจกุล กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจกองทุนรวม บลจ.บัวหลวง กล่าวว่า iBuddy จะช่วยเพิ่มช่องทางการสื่อสารใหม่ๆ ในการนำเสนอข้อมูลกองทุน สถานะทางการเงินและการลงทุน เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนให้กับนักลงทุนทั่วไปได้ดียิ่งขึ้น เพราะไม่ว่าผู้ลงทุนจะอยู่ที่ใดก็จะรับข้อมูลผ่าน smart phone ได้อย่างรวดเร็ว สะดวกสบาย ในทุกที่ ทุกเวลา เพียงดาวน์โหลด iBuddy บนอุปกรณ์ Smart phone ได้ฟรีง่ายๆ ผ่านใน App Store ได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เพียง search คำว่า “iBuddy” หรือ “BBLAM” สำหรับ iPhone และ iPad  โดยจะมีรายการที่สำคัญที่สำคัญแสดงไว้ 5 รายการได้แก่ 1) News ที่รวบรวมข่าวสารทางการเงินการลงทุนที่น่าสนใจเอาไว้ 2) Funds นำเสนอข้อมูลรายละเอียดกองทุนอย่างครบถ้วนรวมทั้งผลการดำเนินงารนย้อนหลัง
3) My Portfolio ช่วยบันทึกข้อมูลการลงทุนและแสดงผลการดำเนินงานของพอร์ทและตรวจสอบผลการ ดำเนินงานของพอร์ทการลงทุนได้ง่าย 4) Location ช่วยค้นหาตำแหน่งสาขาธนาคารกรุงเทพได้ทั่วประเทศและสาขาที่อยู่ใกล้เพื่อใช้ บริการ และ 5) About Us ให้ข้อมูลทั่วไปของบลจ.บัวหลวงรวมถึง Contact Center ทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจ ทั้งกองทุนรวม ,กองทุนส่วนบุคคลและกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
เชื่อว่าแอพ iBuddy จะช่วยให้นักลงทุนเข้าถึงข้อมูลการลงทุนและเข้าถึงบริษัทได้สะดวกง่ายดาย ยิ่งขึ้น ทั้งในส่วนของลูกค้าเก่าและลูกค้าทั่วไปที่สนใจจะเข้ามาใช้บริการของบริษัท ด้วยเช่นกัน
นายกระษิร บรรจงจิตร VP โครงการประเมินศักยภาพทางธุรกิจ ฝ่ายผู้จัดการใหญ่ บมจ.ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า ปัจจุบันลูกค้าเงินฝากเริ่มให้ความสำคัญกับการลงทุนในรูปแบบใหม่ๆ มากขึ้นตามลำดับ ทั้งนี้ การพัฒนาแอพพลิเคชั่นล่าสุดของกองทุนบัวหลวง จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการความรวดเร็วในการค้น หาข้อมูลได้เป็นอย่างดี เหมือนเป็นการย่อโลกการลงทุนมาไว้ใกล้ตัวมากยิ่งขึ้น จุดเด่น คือ มีข้อมูลข่าวสารที่ผู้ลงทุนสามารถเรียกดูได้ทุกที่ทุกเวลา ผ่าน iPhone และ iPad เท่ากับช่วยเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจ และยังเต็มไปด้วยความรู้บทความต่างๆ สำหรับต่อยอดความสำเร็จในการลงทุนจากบลจ.บัวหลวง
เมื่อหาข้อมูลผ่าน iBuddy ของบลจ.บัวหลวงแล้ว สามารถทำรายการซื้อขายกองทุนผ่านระบบ iBanking ของธนาคารกรุงเทพได้เลยเช่นเดียวกัน ลูกค้าจึงได้รับความสะดวกสบายในการลงทุนอย่างสูงสุดหรือจะค้นหาสาขาธนาคาร กรุงเทพที่ใกล้เพื่อเข้าไปใช้บริการก็ได้ผ่าน iBuddyได้เช่นเดียวกัน

29 สิงหาคม 2555

มูลนิธิธนาคารกรุงเทพ ร่วมสืบสานงานช่างศิลป์ไทย จัดประกวดหัตถศิลป์บัวหลวง



           นาย โฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (ที่ 3 จากขวา) ในฐานะกรรมการมูลนิธิธนาคารกรุงเทพ เป็นประธานในงานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการประกวดหัตถศิลป์บัวหลวง ครั้งที่ 1 หัวข้อ "งานสลักดุนภาชนะโลหะ" โดยมีคุณหญิงชดช้อย โสภณพนิช กรรมการมูลนิธิธนาคารกรุงเทพ (ที่ 4 จากซ้าย) อาจารย์ถวัลย์ ดัชนี (ที่ 3 จากซ้าย) และอาจารย์เผ่าทอง ทองเจือ (ขวา) ตัวแทนคณะกรรมการตัดสิน
ร่วม ให้รายละเอียด ทั้งนี้ มูลนิธิธนาคารกรุงเทพได้จัดการประกวดดังกล่าวขึ้น เพื่อร่วมอนุรักษ์และสืบสานศิลปวัฒนธรรมไทยด้านงานฝีมือช่างศิลป์ พร้อมเปิดโอกาสให้ช่างศิลป์ได้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะอันทรงคุณค่าในรูปแบบ หัตถศิลป์ เพื่อเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศไทยสืบไป รวมเงินรางวัลทั้งสิ้น 900,000 บาท ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและส่งผลงานเข้าประกวดได้ ณ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ถนนสีลม กรุงเทพฯ ตั้งแต่เวลา 10.00-15.30 น. โทร. 0-2230-2560 หรือ 0-2230-2562 กำหนดวันส่งผลงานและวันตัดสินผลงาน ตามประกาศของมูลนิธิธนาคารกรุงเทพหรือทางเว็บไซต์
www.queengallery.org

ที่มา:http://www.bangkokbank.com/BangkokBankThai/AboutBangkokBank/AboutUs/MediaRoom/2012/August/Pages/PressRelease23Aug.aspx


28 สิงหาคม 2555

ความร่วมมือในการสร้างความไว้วางใจ คือ กุญแจไขความสำเร็จของเออีซี

         นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในระหว่างการประชุมโต๊ะ กลมอาเซียน-ประเทศไทย จัดโดยสภาธุรกิจอาเซียน หรือเอบีซี (
ASEAN Business Club) ว่าประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนจะประสบความสำเร็จหากประเทศสมาชิกร่วมแรงร่วมใจใน การสร้างความไว้วางใจในระดับประชาชนทั่วภูมิภาค เขากล่าวย้ำถึงพันธะกรณีของรัฐบาลไทยต่ออาเซียน และได้คำแนะนำถึงวิธีปฏิบัติจะช่วยให้บูรณาการทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคที่ แผ่ขยายมากขึ้นสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยได้ เขาได้กระตุ้นให้สภาธุรกิจอาเซียนพัฒนาความสัมพันธ์และความไว้วางใจใน ระหว่างนักธุรกิจในประเทศสมาชิกอาเซียน และให้พวกเขามีสัมพันธ์มากขึ้นกับผู้กำหนดนโยบายสภา ธุรกิจอาเซียน ซึ่งเปิดตัวในเดือนตุลาคม 2554 ได้จัดกิจกรรมเป็นครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อวานนี้ โดยจัดการประชุมโต๊ะกลมและงานเลี้ยงอาหารค่ำที่โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพ โดยมีประธานร่วมของเอบีซีประเทศไทย คือ คุณทศ จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทเซ็นทรัลรีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด และคุณชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ ร่วมประชุมกับผู้แทนระดับสูงของรัฐบาลไทย
          ผู้บริหารของธนาคารแห่งประเทศไทย และผู้นำภาคอุตสาหกรรมและธุรกิจชั้นนำเข้าร่วม คือ คุณพยุง   ศักดิ์ชาติ สุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย คุณพงษ์ศักดิ์ อัสสกุล ประธานหอการค้าไทยและประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย คุณธวัชชัย ยงกิตติกุล เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย และคุณบัณฑิต นิจถาวร ประธานสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย

          มร.จอร์จ โหย่ว รองประธานกลุ่มเคอร์รี่ และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตรัฐมนตรีกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมของสิงคโปร์ ได้กล่าวตอนหนึ่งในการปาฐกถาระหว่างการเลี้ยงอาหารค่ำถึงความสำคัญของอา เซียนที่เป็นกลุ่มประเทศที่อยู่ตรงกลางระหว่างประเทศอินเดียและจีน และมีการผสมผสานของวัฒนธรรมจากทั้งสองประเทศ เขากล่าวความสัมพันธ์ที่พอกพูนขึ้นภายในกลุ่มอาเซียนและระหว่างกลุ่มกับ อินเดียและจีนจะเป็นแรงขับเคลื่อนการเติบโตของภูมิภาค ซึ่งการที่จะฉวยโอกาสนี้ได้อาเซียนสามารถสร้างบูรณาการในกลุ่มให้เป็นจริง ได้ และด้วยการสร้างเครือข่ายทางการค้าและการลงทุนในภุมิภาค ภาคธุรกิจเอกชนมีบทบาทที่เป็นกุญแจสำคัญในการส่งเสริมบูรณาการของภูมิภาคนี้ 

ที่มา:http://www.bangkokbank.com/BangkokBankThai/AboutBangkokBank/AboutUs/MediaRoom/2012/August/Pages/PressRelease15Aug.aspx

วิเคราะห์ : การประชุมโต๊ะ กลมอาเซียน-ประเทศไทย จัดโดยสภาธุรกิจอาเซียน หรือเอบีซี (ASEAN Business Club)โดยมีประธานร่วมของเอบีซีประเทศไทย คือ คุณทศ จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทเซ็นทรัลรีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด และคุณชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ ร่วมประชุมกับผู้แทนระดับสูงของรัฐบาลไทย ผู้บริหารของธนาคารแห่งประเทศไทย และผู้นำภาคอุตสาหกรรมและธุรกิจชั้นนำ  นอกจากนี้ยังมีสมาชิกจากบริษัทต่างๆ เข้าประชุมด้วย  โดยการประชุมครั้งนี้เป้นการแลกเปลี่ยนมุมมองความคิดเห็นที่มีต่ออาเซียน และเพื่อให้ประเทศสมาชิกร่วมแรงร่วมใจกันในการสร้างความไว้วางใจในระดับประชาชนทั่วภูมิภาค