6 กรกฎาคม 2555
แบงก์พร้อมเพิ่มกันสำรองเสริมความแข็งแกร่งตั้งรับผลกระทบวิกฤติยูโรป
นายชาติศิริ
โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ(BBL) กล่าวว่า ธนาคารอยู่ระหว่างการวิเคราะห์ทิศทางและผลกระทบด้านต่างๆจากปัญหาวิกฤติ
ยุโรป เพื่อหาแนวทางป้องกัน แม้ว่าเบื้องต้นยังไม่พบลูกค้าธนาคารได้รับผลกระทบ
พร้อมทั้งจะมีการทบทวนถึงความจำเป็นต่อการกันสำรองหนี้สงสัยจะสูญ เพิ่มเติม
ปัจจุบัน ธนาคารมีการสำรองฯราว 1,500-1,800 ล้านบาทต่อไตรมาส ซึ่งสามารถครอบคลุมการขยายตัวสินเชื่อใหม่ได้ทั้งหมด
ประกอบกับธนาคารใช้ความระมัดระวังในการควบคุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิด รายได้(เอ็นพีแอล)ให้อยู่ระดับต่ำด้วย
"แบงก์ชาติให้เราดูความเหมาะสมในการตั้งสำรองเป็นระยะๆ
ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี เราประเมินตัวเองอยู่ตลอดเวลา โดยภาพรวมแบงก์ส่วนใหญ่มีระดับเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงสูง
โดยเป็นเงินกองทุนขั้นที่ 1 ถึง11%"นายชาติศิริ กล่าว
ขณะที่นางกรรณิกา ชลิตอาภรณ์
กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์(SCB)
กล่าวว่า เศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะการส่งออกคงจะได้รับแรงกระแทกจากวิฤกติยุโรปอย่างชัดเจน
ตั้งแต่ไตรมาส 4/55 เป็นต้นไปจนถึงปี 56 ดังนั้น ทุกภาคส่วนต้องเตรียมตั้งรับและปรับตัวให้มีความแข็งแกร่ง ในแง่ของระบบธนาคารพาณิชย์ไทยแม้ว่ายังมีความแข็งแกร่ง
แต่อาจถูกกระทบจากลูกค้าที่มีธุรกรรมเกี่ยวข้องกับยุโรปหรือต่างประเทศ ซึ่งธนาคารต้องเข้าไปบริหารจัดการอย่างใกล้ชิด
นอกจากนั้น ยังต้องติดตามประเด็นความไม่สงบการเมืองในประเทศด้วย
เนื่องจากมีส่วนกระทบต่อความเชื่อมั่นการลงทุนของภาคเอกชนซึ่งธนาคาร กังวลประเด็นนี้มาตลอด
6-7 ปีจนถึงปัจจุบัน
"เราควรกังวล
แต่ไม่ควร Panic เราเริ่มถูกกระทบจากวิฤกติยุโรปช้ากว่าที่อื่น
ดังนั้นก็ต้องเตรียมตั้งรับให้ดี ซึ่งเศรษฐกิจไทยก็มีความแข็งแกร่งพอควร
แบงก์และธุรกิจก็ยังเป็นทิศทางทีดี"นางกรรณิกา กล่าว
ทั้งนี้
ธนาคารได้ปรับเพิ่มการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญเป็น 500 ล้านบาทต่อเดือนจากปีก่อนที่มีการกันสำรองราว
300 ล้านบาทต่อเดือน ทำให้ระดับสำรองหนี้สูงกว่าถึง
130%เพื่อเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือวิฤกติที่เกิดขึ้นและการขยายสิน
เชื่อ ซึ่งมั่นใจว่ามีความเพียงพอ เนื่องจากควบคุมหนี้เอ็นพีแอลให้อยู่ในระดับต่ำมาก
วิเคราะห์ข่าว : จากสถานการณ์ในปัจจุบันที่เศรษฐกิจโลกเริ่มมีปัญหา โดยเฉพาะในส่วนของกลุ่มยูโรโซน
ทำให้ประเทศต่างๆ ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ประเทศไทยก็เช่นกัน
เพราะเรามีการทำธุรกิจ และส่งออกไปยังกลุ่มยูโรโซน
จึงต้องพร้อมรับกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นอยุ่เสมอ
ธนาคารกรุงเทพจึงได้มีการกันสำรองหนี้สงสัยจะสูญอยู่ราว1,500-1,800
ล้านบาทต่อไตรมาส ซึ่งสามารถครอบคลุมการขยายตัวสินเชื่อใหม่ได้ทั้งหมด
อีกทั้งธนาคารใช้ความระมัดระวังในการควบคุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล)ให้อยู่ระดับต่ำด้วย
ทั้งนี้ธนาคารก็ได้มีการประเมินตัวเองอยู่ตลอดเวลา
ดังนั้นหากผลกระทบจากกลุ่มยูโรโซนส่งผลมาที่ไทย ธนาคารก็พร้อมที่จะรับมือ